จุดจบคณิตศาสตร์ ม.3
คณิตศาสตร์ ม.๓
เรื่อง กราฟ
0
กราฟ
1.กราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณที่มีความสัมพันธ์เชิงเส้น

ในการเขียนกราฟของความสัมพันธ์เชิงเส้นกรณีที่กราฟมีลักษณะเป็นจุด เพื่อดูแนวโน้มของความสัมพันธ์ เรานิยมเขียนต่อจุดเหล่านั้นให้เป็นส่วนหนึ่งของเส้นตรง
ตัวอย่าง1

กลุ่มแม่บ้านในตำบลแห่งหนึ่งร่วมกันผลิตน้ำฝรั่งเพื่อบรรจุขวดขายในราคาขวดละ 20 บาท จากการบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับเงินลงทุน เขียนแสดงได้ด้วยกราฟดังรูป
จงเขียนกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนน้ำฝรั่งที่ขายได้กับรายได้ที่ได้รับโดยใช้แกนคูเดียวกันกับกราฟแสดงเงินลงทุน และใช้กราฟที่ได้ตอบคำถามต่อไปนี้
วิธีทำ

1) เงินลงทุนขั้นต่ำที่ต้องจ่ายก่อนผลิตน้ำฝรั่งเป็นเงินเท่าไร
ตอบ 2,000 บาท
2) ถ้าขายน้ำฝรั่งได้ 150 ขวด จะได้กำไรหรือขาดทุนเป็นเงินเท่าไร
ตอบ ได้ว่าเงินลงทุน = 3,500 บาท และเงินรายได้ของการขายน้ำฝรั่ง = 3,000 บาท
ดังนั้น ขาดทุน = 3,500 – 3,000 = 500 บาท
3) กลุ่มแม่บ้านต้องขายน้ำฝรั่งให้ได้อย่างน้อยที่สุดกี่ขวดจึงจะถึงจุดคุ้มทุน
ตอบ จุดตัดของกราฟอยู่ที่ 200 ดังนั้นชาวบ้านต้องขายน้ำฝรั่งอย่างน้อย 200 ขวดจึงจะถึงจุดคุ้มทุน
4) จากจุดคุ้มทุน ถ้าขายน้ำฝรั่งได้มากขึ้นเรื่อยๆ นักเรียนคิดว่า ส่วนต่างของเงินลงทุนกับรายได้จะเป็นอย่างไร และมีความหมายว่าอย่างไร
ตอบ จากกราฟสังเกตได้ว่าส่วนต่างของเงินลงทุนกับรายได้มีค่าเพิ่มขึ้นนั้นชี้ให้เห็นว่ายิ่งขายน้ำฝรั่งได้มากกำไรก็จะยิ่งมากขึ้นด้วย
ตัวอย่าง 2
รถยนต์คันที่หนึ่งออกเดินทางเวลา 8.00 น. ด้วยอัตราเร็ว 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นเวลา 2 ชั่วโมง แล้วหยุดพัก 1 ชั่วโมงจากนั้นจึงออกเดินทางต่อด้วยอัตราเร็ว 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถยนต์คันที่สองเริ่มออกเดินทางตามไปในเส้นทางเดียวกันหลังจากคันที่หนึ่งแล่นไปแล้ว 2 ชั่วโมง ด้วยอัตราเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จงเขียนกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างเวลากับระยะทางที่รถยนต์แต่ละคันแล่นได้ ตั้งแต่ 8.00 น. ถึง 14.00 น. โดยใช้แกนคู่เดียวกัน แล้วใช้กราฟที่ได้ตอบคำถามต่อไปนี้
วิธีทำ

1) ในขณะที่รถยนต์คันที่สองเริ่มออกเดินทาง รถยนต์คันที่หนึ่งแล่นนำหน้าเป็นระยะทางเท่าใด
ตอบ 80 กิโลเมตร
2) รถยนต์ทั้งสองคันแล่นทันกันเมื่อเวลาใด
ตอบ 13 นาฬิกา
3) หลังจากรถยนต์ทั้งสองคันแล่นทันกันแล้ว รถยนต์คันใดจะแล่นนำหน้า
ตอบ รถคันที่ 2
4) จากกราฟ ถ้ารถยนต์ทั้งสองคันยังคงแล่นต่อไปด้วยอัตราเร็วเดิมจนถึงเวลา 14.30 น. รถยนต์ทั้งสองคันอยู่ห่างกันประมาณเท่าใด
ตอบ ณ เวลา 14.30 น. รถคันที่หนึ่งวิ่งได้ระยะทาง 255 กิโลเมตร และคันที่สองวิ่งได้ 270
กิโลเมตร ดังนั้นรถยนต์ทั้งสองคันนี้อยู่ห่างกัน = 270 – 255 = 15 กิโลเมตร
2.กราฟของสมการเชิงเส้นสองตัวแปร
บทนิยาม “สมการเส้นตรง” คือสมการที่อยู่ในรูป

เมื่อ A, B และ C เป็นจำนวนจริงโดยที่ A และ B ไม่เป็นศูนย์พร้อมกัน
ถ้า A 0 และ B 0 เรานิยมจัดสมการให้อยู่ในรูปที่สะดวกต่อการแทนค่า x และหาค่า y ดังนี้
พิจารณา Ax + By + C = 0
จัดรูปใหม่ จะได้ By = – Ax – C
y = –
x –
ถ้าให้
= m ,
= b จะได้สมการเชิงเส้นสองตัวแปรที่นิยมเขียนกันอีกแบบหนึ่ง คือ
y = mx + b เมื่อ m และ b เป็นค่าคงตัว
ดังนั้นเราสามารถเขียนสมการ (1) ให้อยู่ในรูปต่อไปนี้

โดยเรียก m ว่าเป็นความชันของเส้นตรง และ b เป็นระยะตัดแกน Y
ข้อสังเกต กราฟของสมการเชิงเส้นสองตัวแปรสองสมการที่อยู่ในรูป y =
และ
และ
y =
เมื่อ
และ
เป็นค่าคงตัว มีลักษณะดังนี้
เมื่อ
และ
เป็นค่าคงตัว มีลักษณะดังนี้- ความชันของสมการทั้งสองเท่ากัน
ก็ต่อเมื่อ กราฟทั้งสองเส้นเป็นเส้นตรงที่ขนานกัน - ความชันของสมการทั้งสองไม่เท่ากัน
ก็ต่อเมื่อ กราฟทั้งสองเส้นเป็นเส้นตรงที่ตัดกัน
วิธีที่ 2 หาจุดตัดแกน
– หาจุดตัดแกน X : ให้ y = 0 แล้วแก้สมการหาค่า x ที่เป็นจำนวนจริง
– หาจุดตัดแกน Y : ให้ x = 0 แล้วแก้สมการหาค่า y ที่เป็นจำนวนจริง
ความชันของเส้นตรง 2 เส้น
ให้เส้นตรง
และ
มีความชันเป็น
และ 

ความสัมพันธ์ระหว่างความชันกับกราฟของเส้นตรง
ให้ L เป็นเส้นตรงที่มีความชัน m แล้วเราได้ข้อสรุปดังนี้
- ถ้า m = 0 แล้ว เส้นตรง L ขนานกับแกน X
- ถ้า m > 0 แล้วเส้นตรง L ทำมุมแหลมกับแกน X
- ถ้า m < 0 แล้วเส้นตรง L ทำมุมป้านกับแกน X
ตัวอย่าง 1
กำหนดสมการเส้นตรง
จงหาความชันของเส้นตรงเส้นนี้และระยะตัดแกน Y
จงหาความชันของเส้นตรงเส้นนี้และระยะตัดแกน Y
วิธีทำ จาก
เราสามารถจัดรูปได้ใหม่ว่า 
เราสามารถจัดรูปได้ใหม่ว่า 
เพราฉะนั้นได้ว่า เส้นตรงนี้มีความชันเท่ากับ 2 และตัดแกน Y ที่ y = -5
ตัวอย่าง2
จงวาดกราฟของสมการ 
วิธีทำ จากโจทย์เราสามารถสร้างตารางได้ดังต่อไปนี้

วาดกราฟได้ดังนี้

ตัวอย่าง 1
ผลบวกของจำนวนสองจำนวนเป็น 51 ถ้าจำนวนหนึ่งน้อยกว่าอีกจำนวนหนึ่งอยู่ 13 จงหาจำนวนสองจำนวนนั้น
วิธีทำ ให้จำนวนทั้งสอง คือ x และ y จากโจทย์เราได้ระบบสมการเชิงเส้นดังนี้
x+ y = 51 ……(1)
x – y = 13 ……(2)
(1) + (2) 2x = 64 หรือ x = 32
แทนค่า x ใน (2) ; หรือ y = 19
ดังนั้น จำนวนทั้งสอง คือ 32 และ 19
ตัวอย่าง 2
จำนวนจำนวนหนึ่งเขียนแทนได้ด้วยตัวเลขสองหลัก เลขโดดในหลักสิบมากกว่าเลขโดดในหลักหน่วยอยู่ 4 และผลบวกของจำนวนนี้กับจำนวนที่มีเลขโดดสลับหลักกันกับจำนวนเดิมเป็น 154 จงหาจำนวนเดิมนั้น
วิธีทำ ให้จำนวนดังกล่าวอยู่ในรูป mn โดยที่ m เป็นเลขหลักสิบ และ n เป็นเลขหลักหน่วย
(m,n = 0,1,2,…,9)
จากโจทย์เราได้ระบบสมการเชิงเส้นดังนี้
m – n = 4 ……(1)
(10m+n)+(10n+m) = 154 ……(2)
หรือ 11m + 11n = 154 ……(3)
(1) ´ 11 ; 11m – 11n = 44 ……(4)
(3) +(4) ; 22m = 198 หรือ m = 9
แทนค่า m ใน (1) ; หรือ
ดังนั้น จำนวนดังกล่าวคือ 95
—————————————————————————————————————————————————————–
อ้างอิง: http://e-learning.kusol.org/mod/scorm/player.php
เรื่อง ความคล้าย
0
ความคล้าย
1.รูปหลายเหลี่ยมที่คล้ายกัน

A B


เมื่อกล่าวถึงรูปหลายเหลี่ยมสองรูปที่คล้ายกัน เราจะเขียนจุดยอดมุมที่สมนัยกันให้อยู่ในลำดับเดียวกัน เช่น มีรูป ก คล้ายกับรูป ข ดังรูป

เราจะเขียนว่า รูป ABCDE ~ รูป PQRST ซึ่งหมายถึง

การเขียนว่า รูป ABCDE ~ รูป PQRST เป็นการแสดงการจับคู่ระหว่างมุมและด้านคู่ที่สมนัยกัน ดังนี้
จากตัวอย่างข้างต้น ถ้ามีการเขียนเป็นอย่างอื่น เช่น รูป ABCDE ~ รูป QRSTP
อาจทำให้การหามุมคู่ที่สมนัยกันและด้านคู่ที่สมนัยกันเป็นไปอย่างสับสนได้
ตัวอย่าง 1
จากรูป จงแสดงว่ารูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน DUCK และรูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน FISH เป็นรูปสี่เหลี่ยมที่คล้ายกัน


เฉลยตัวอย่าง 1
วิธีทำ เนื่องจาก oDUCK เป็นรูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน
จะได้ = = 60°
DU = CK = 6 หน่วย
และ CU = DK = 4 หน่วย
= 180 – 60 = 120°
ดังนั้น = = 120°
ในทำนองเดียวกัน จะได้ว่า
= = 120°
IS = FH = 6 หน่วย
และ SH = IF = 9 หน่วย
= 180 – 120 = 60°
ดังนั้น = = 120°
เพราะฉะนั้น สามารถจับคู่จุดยอดมุมที่ทำให้ได้
1. มุมคู่ที่สมนัยกันมีขนาดเท่ากันเป็นคู่ๆ ทุกคู่ คือ 

2. อัตราส่วนของความยาวของด้านคู่ที่สมนัยกันทุกคู่เป็นอัตราส่วนที่เท่ากัน คือ
นั่นคือ DUCK ~ FISH
2.รูปสามเหลี่ยมที่คล้ายกัน


จากรูป
ABC คล้ายกับ
DEF เราใช้สัญลักษณ์ ~ แทนคำว่า “คล้ายกับ” ดังนั้นจึงเขียน
ABC ~
DEF แทนข้อความว่า
ABC คล้ายกับ
DEF
ABC คล้ายกับ
DEF เราใช้สัญลักษณ์ ~ แทนคำว่า “คล้ายกับ” ดังนั้นจึงเขียน
ABC ~
DEF แทนข้อความว่า
ABC คล้ายกับ
DEF
การใช้สัญลักษณ์ ~ นี้ มักนิยมเขียนจุดยอดมุมของรูปสามเหลี่ยมคู่ที่มีขนาดของมุมเท่ากันไว้ในตำแหน่งเดียวกัน
เช่น ถ้าเขียน
ABC ~
DEF หมายความว่า
=
,
=
และ
= 
ABC ~
DEF หมายความว่า
เมื่อ
ABC ~
DEF ดังตัวอย่าง
ABC ~
DEF ดังตัวอย่าง
เนื่องจาก ด้าน BC อยู่ตรงข้าม

ด้าน EF อยู่ตรงข้าม 

และ
= 
จะกล่าวว่า ด้าน BC สมนัยกับด้าน EF
ในทำนองเดียวกัน จะได้ว่า
ด้าน AC สมนัยกับด้าน DF
และ ด้าน AB สมนัยกับด้าน DE
จะกล่าวว่า
ABC และ
DEF มีด้านคู่ที่สมนัยกันสามคู่
ABC และ
DEF มีด้านคู่ที่สมนัยกันสามคู่
ซึ่งได้แก่
สมนัยกับ
,
และ
สมนัยกับ 
สมบัติของรูปสามเหลี่ยมที่คล้ายกัน
ที่มาhttps://emotystyle.wordpress.com/



0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น